Search This Blog

Today Motorcycle
Motorcycle

Wednesday, September 2, 2009

จอร์เก้ ลอเรนโซ่ เรียกความมั่นใจกลับคืน เก็บแชมป์ได้อีกครั้ง

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2009 สนามที่ 12 ทำการแข่งขันกัน ณ สนามอินเดียนาโปลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ไอ้หนุ่มมาญอร์ก้า จอร์เก้ ลอเรนโซ่ เรียกความมั่นใจกลับคืนมาเต็ม 100 เมื่อเขากดยามาฮ่า M1 คู่ใจขึ้นนำตั้งแต่รอบ 9 จึงผ่านเส้นชัย คว้าแชมป์สนามที่ 3 ในฤดูกาลนี้ให้กับตัวเอง ขณะที่เดอะด็อกเตอร์ วาเลนติโน่ รอสซี่ พลาดล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย แต่คะแนนสะสมยังเป็นผู้นำอยู่เช่นเคย โดยมีลอเรนโซ่ขยับคะแนนห่างเหลือเพียง 25 แต้ม

สนามแข่งอินเดียนาโปลิสที่มีความยาวรวมทั้งหมด 4,216 เมตร มีพื้นฐานจากสนามรูปวงรีสำหรับการแข่งขันแนสคาร์ ก่อนจะมีการแก้ไขพื้นที่ด้านในให้กลายเป็นสนามแข่งทางเรียบซึ่งลักษณะโค้งส่วนใหญ่เป็นโค้งชิเคน สลับโค้งหักศอก และในหลายๆ พื้นที่ ผิวแทร็คไม่เรียบเท่าที่ควร ทำให้การขับขี่เต็มที่ 100% เป็นอะไรที่ค่อนข้างเสี่ยง รวมถึงการเซ็ทรถที่ยากลำบาก แต่ในวันควอลิฟาย 2 นักบิดเฟี๊ยตยามาฮ่าประสบปัญหาเรื่องการเซ็ทยาง และช่วงล่างที่สามารถทำให้นักแข่งขับขี่ได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถออกสตาร์ทในแถวแรกด้วยอันดับ 2 จอร์เก้ ลอเรนโซ่ และอันดับ 3 วาเลนติโน่ รอสซี่

เกมออกสตาร์ทมา แดเนี่ยล เปโดรซ่า ออกสตาร์ทขึ้นไปนำ ตามติดด้วยวาเลนติโน่ รอสซี่ และจอร์เก้ ลอเรนโซ่ ที่ออกสตาร์ทได้ไม่ดี ซึ่งเดอะด็อกเตอร์ รอสซี่ ไล่บี้กดดันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างดุเดือด ขณะที่ผู้นำเปโดรซ่าพยายามยืดระยะห่างตัวเองพลาดล้มสไลด์ขวางไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยในรอบที่ 4 นี่เอง กลายเป็นการครองตำแหน่งหัวแถวจากสองนักบิดยามาฮ่าอีกครั้ง รอสซี่ถึงจะคว้าตำแหน่งผู้แทน แต่ใช่จะเบาใจ เพราะลอเรนโซ่ นักบิดยามาฮ่าทีมเดียวกันก็ขึ้นมากดดัน โดยทั้งคู่ต่างผลัดกันทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดได้อย่างสนุก อันมีปัจจัยจังหวะการขับขี่ที่สมบูรณ์ จนถึงช่วงเข้าสู่ทางตรงในรอบที่ 9 ลอเรนโซ่บิดยามาฮ่า M1 ไหลแซงรอสซี่ขึ้นมาเป็นผู้นำแทนได้สำเร็จ

รอสซี่ แม้จะเสียตำแหน่งแต่ก็ไม่รีบร้อนเอาคืน เกาะติดหาจังหวะเสียบแซงกดดันลอเรนโซ่อย่างต่อเนื่อง แต่ในจังหวะเบรกเข้าโค้งเอสที่สองอยู่นั่นเอง รอสซี่วิ่งผ่านผิวแทร็คที่ขรุขระและสกปรก ทำให้ล้อหน้าลื่นไถล รถล้มลงไปอย่างไม่เชื่อสายตาผู้ชมทั่วโลก และรถเสียหายจนไม่สามารถนำเข้าแข่งต่อได้ ต้องออกจากการแข่งขันไปโดยปริยาย ตั้งแต่นั้นมา ไม่มีนักแข่งคนใดสามารถขึ้นมากดดันลอเรนโซ่ได้อีก เขาบิดยามาฮ่า M1 เบอร์ 99 คู่ใจทิ้งห่างอันดับ 2 กว่า 13 วินาทีก่อนผ่านธงตราหมากรุก คว้าแชมป์สนามที่ 3 ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ และยังทำให้เขามีคะแนนตามหลังเดอะด็อกเตอร์ วาเลนติโน่ รอสซี่ ทีมเมทยามาฮ่าผู้ครองตำแหน่งจ่าฝูงตารางคะแนนสะสมเหลือเพียง 25 แต้มเท่านั้น การแข่งขันโมโตจีพี 2009 สนามที่ 13 ณ สนามมิซาโน่ ประเทศอิตาลี จะแข่งขันกันในอาทิตย์นี้ แฟนความเร็วตัวจริง ห้ามพลาด

หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ลอเรนโซ่ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับผมและทีมงานทุกคนมาก ผมพลาดล้มไป 2 ครั้งในสนามนี้แต่ผมกลับชนะการแข่งขัน และคู่แข่งคนสำคัญก็พลาดล้มไป แน่นอนว่าผมรู้เสียใจต่อเขา แต่นี่คือจุดพลิกผันที่เป็นผลดีสำหรับผม ต้องขอขอบคุณทีมงานที่ทำให้ยามาฮ่า M1 ในวันนี้เยี่ยมยอดมาก ผมออกสตาร์ทไม่ดีแต่ผมก็พยายามแซงนักแข่งคนอื่นจนขึ้นมาอันดับ 3 ในรอบแรกได้สำเร็จ ตั้งแต่นั้นผมก็สร้างจังหวะขับขี่ได้ดี สามารถเกาะรอสซี่และเปโดรซ่าได้ จนเปโดรซ่าพลาดล้ม ผมรู้ว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งเกมสุดหินอีกครั้งระหว่างผมและรอสซี่ จนกระทั่งเขาล้ม ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผมก็อ่านป้ายพิทบอร์ดไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม สนามนี้รถยามาฮ่าของผมดีมาก มันขับขี่ได้ง่ายมาก ทำให้ผมสนุกกับการขับขี่จนคว้าแชมป์ ผมรู้สึกดีใจ และมีความสุข ก่อนนี้ตำแหน่งแชมป์โลกเป็นอะไรที่เลือนหายไปแล้ว แต่อยู่ดีๆ มันก็กลับมาให้เรามีลุ้นได้อีกครั้ง และผมจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือเด็ดขาด”

สำหรับรอสซี่ ก็ออกมาให้ความเห็นว่า “วันนี้ไม่ใช่วันของผม เราติดปัญหาเซ็ทรถตลอดสุดสัปดาห์ แต่เราก็สามารถปรับปรุงมันได้ในการซ้อมช่วงเช้า ในเกมผมออกสตาร์ทได้ดี และสามารถกดดันเปโดรซ่า จนกระทั่งเขาพลาดล้ม ผมรู้ว่าต้องเป็นเกมดุเดือดอีกครั้งระหว่างผมกับลอเรนโซ่ และผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อเก็บชัยชนะ สนามนี้ลอเรนโซ่ขับได้ขี่เร็วมาก อย่างน้อยการจบอันดับ 2 ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรติดมือเลย น่าผิดหวังที่ผมวิ่งไลน์กว้างจนอยู่บนผิวแทร็กที่สกปรกทำให้ล้อหน้าเสียการยึดเกาะ ผมพยายามนำรถกลับเข้ามาแข่งขันต่อ แต่คันเร่งมีปัญหาทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน ผมต้องขอแสดงความยินดีต่อชัยชนะของลอเรนโซ่ ตอนนี้เรามองไปยังการแข่งขันในสนามหน้าที่กำลังจะมาถึง ถ้าเรายังเป็นจ่าฝูงอยู่ มันจะเป็นอะไรที่สำคัญมาก”

ที่มา http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=1029/

No comments:

Post a Comment